Skip to content

[TH] My life in September | มรสุมชีวิตเดือนกันยาฯ

Updated: at 06:57

ฮะ ฮาย หลังจากหายไปอีก 1 เดือนเต็ม ๆ กับ Blog (แล้วช่องด้วย) งั้นขอมาอัปเดทหน่อยแล้วกันนะว่า 1 เดือนนี้เป็นไงบ้าง อะไรยังไงบ้าง ไปกันเล๊ยยย


เริ่มแรกที่ก็น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยนั้นคือ

What’s about your mental heath right now? | สุขภาพจิตช่วงนี้เป็นไงบ้าง

บอกเลยนะว่า ได้ลงไปใกล้ถึงจุดต่ำสุดในชีวิตแล้วแหละ มันถึงจุดที่เริ่มส่งผลต่อการทำงานรวมถึงชีวิตและ คือแบบ กลางวันก็ดูเหมือนโอเคดีนะ แต่กลับบ้านไปเท่านั้นแหละ กินข้าวเสร็จก็คือ นอน (ใช่ นอนเลย) คือเหมือนหมดแรง แบบ เหมือนตัวเองมีปัญหากับใครแล้วเหนื่อยจนง่วงนอนอย่างไงอย่างนั้น (ล่าสุดก็จาก 4 โมงเย็นยาวยันเที่ยงคืนอ่ะ) อ่ะ ยอมรับนอนดึกก็ส่วนนึง แต่หมดแรงน่าจะมากสุด เพราะแบบ เทียบเรทปกติ ผมมักจะต้องไปง่วงตอนดึกนั้นจะใช่ แต่อันนี้คือแค่กลับบ้านมาก็แบบพลังงานหมดแบบ ปุ๊ป หายไปเลย แบบ ตอนเช้าพลังงานเต็มเปี่ยม กลับบ้านมา เหมือนโดนอะไรดูด or something แล้วพลังงานเหลือ 0 ไปเลย ก็ยังสงสัยอยู่แล้วเป็นเพราะอะไร แล้วช่วงนี้ดาวน์เก่งเวอร์ (แบบตอนเช้า ตอนไปเรียนก็ยังปกตินะ แต่กลับบ้านมา คือไม่ไหวเลยยย) ไม่ซึมเป็นมาก็น้ำตาแตกเล็ก ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่ไปกับคุณเนาวน์เนี่ยแหละ (ใครยังไม่ได้อ่าน Blog แรกไปอ่านด้วยนะ)

(ส่วนคนที่อยากรู้เนื้อหาเต็ม ๆ เดี๋ยวจะเขียนแน่ ๆ แต่มันต้องผ่านคุณเนาวน์กับเพื่อนเขาก่อน เพราะเรื่องนี้มันก็ช่าง NDA ซ่ะเหลือเกิน)

พูดถึงเพื่อนเขา ผมก็เผลอไปทำผิดอีก คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้ ตอนนั้นผมก็ยังดาวน์มาก ๆๆๆ ถึงมากที่สุดแหละ แล้วทีนี้ก็เขียน Diary เล็ก ๆ เก็บไว้ใน OneNote (หรือโปรแกรมจดโน๊ตที่แทบไม่มีคนใช้ของ Microsoft นั้นแหละ) แล้วเขาไปเที่ยว เขาก็ลงสตอรี่ของเขาปกติ ถึงจุดนี้ทุกคนก็คงคิดว่า “เฮ้ย ก็คงไม่มีอะไรหรอกใช่ไหม” คือไอเราก็คิดมาก + คิดถึงวันนั้นอยู่ด้วยสิ เลยไปทำนิสัยสมัย CartoonLove…Kung ที่แย่มาก ๆ เลยนั้นคือ แคปภาพมาไว้ในไดอารี่เราไว้ (ถึงจุดนี้หลายคนบอกว่าผมเป็น Stalker แล้วแหละมั้ง) แล้วสักพักนึง คือมันก็รู้สึกคิดถึง + ดีใจกับเขาทั้งที่เราแบบ… นั่งเป็นหมาเพ้อใส่คุณเนาวน์อยู่ที่บ้าน ก็เลยแคปลง Close Friend ไป

แชทฉันกับคุณเนาวน์ (อันนี้เซนเซอร์ชื่อเขาออกไปแล้วนะ)

(ตอนนั้นยอมรับตรง ๆ ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพราะเหมือนจุดนั้นไม่ไหวแล้วอ่ะ แบบคิดถึงทุกอย่าง คิดถึงพวกเขา คิดถึงวันนั้น แม่งคือ โทษทีนะ ทรมาณสัส ๆ เลยอ่ะ แบบ เราต้องนั่งดูเขามีความสุขโดยที่จุดนั้นที่ไม่มีเราอ่ะ แม่งทรมาณมาก ๆ เลย แต่พิมพ์แบบนี้ก็ไม่อยากให้พวกเขาเปลี่ยนไปหรอก อยากบอกเขาด้วยว่าไม่ต้องซ่อนอะไรเพราะกลัวฉันหรอก ใช้ชีวิตแบบปกติไปเลย ฉันจะรอวันนั้น วันที่เราเจอกันเอง)

ตอนแรกเขาก็กดถูกใจ ตอนแรกเราก็ดีใจมาก ๆๆๆ ที่เขากดใจมาให้ แต่เรื่องพวกนี้ มันก็ไม่ได้จบสวยหรอกนะ สักพักเขาก็ทักมา (ขออนุญาติไม่แปะภาพแชทเขาแล้วกันนะ) เขาบอกขอบคุณนะที่ดีใจกับเขาแต่เขาไม่สบายใจนะ ที่ผมแคปรูปเขาไปทำอะไรแบบนี้ ผมก็แบบ ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรแล้วเว้ย นอกเหนือจากคำว่า “กูจะเสียเขาไปใช่ไหมว่ะ” แบบ ด้วยเราเพื่อนก็น้อย ยังจะเสียจากการกระทำที่แบบ … นั้นแหละ ตอนนั้นคือทั้ง ล่น คิดมาก รู้สึกผิด รู้สึกแย่ ขนลุก ทุกอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า “ไม่มีใครต้องมาเจออะไรแบบนี้เลย” ผมเลยขอโทษแบบให้เขารู้ว่า เราผิดจริง ๆ นะ แบบ พิมพ์จนเขาบอกให้หยุด แล้วก็คุยกับเขาอีกสักพักนึงเลย จนจบที่เขาไม่ได้ถือสาอะไรแล้ว (แต่ครั้งหน้าผมว่ามันเกิดแน่ ๆ) แต่ตอนนี้ ถ้าเขาอ่าน Blog นี้

ฉันขอโทษแกจริง ๆ นะ แกอย่าถือสาอะไรฉันเลยนะ ฉันแค่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต ฉันเลยไม่รู้วิธีรักษามันอ่ะ แต่ก็ขอบคุณที่แกเข้าใจฉันนะ ถ้าแกรู้สึกอึดอัดอะไรเพราะฉัน ทักมาได้เลย ฉันยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อพวกแกเลยนะ ฉันขอโทษจริง ๆ

จุดจบของเรื่องนี้คือผมไปลบสตอรี่พร้อมแปะเพลงท่องนึงว่า

เพื่อรักษาเธอเอาไว้ ไม่พูดซักเรื่องคงไม่เป็นไร

โพสต์วันนั้นก่อนจะลบสตอรี่นั้นไป แล้วเสร็จสักพัก แบบ หลายวันต่อมา คุณเนาวน์ก็ลากผมให้ไปสอนลง Windows ให้นาง

ตอนนั้นกำลังคุยเรื่องสิ่งที่ฝันอยู่กับนาง หนึ่งในนั้นก็คือ (ถ้ามีโอกาสอ่ะนะ) จะเรียนญี่ปุ่นเพราะน้องเนี่ยแหละ เพราะยอมรับ เราเองก็อยากเข้าใจอะไรเขามากขึ้น มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะ แต่พอเขาถามว่าอยากเพราะอะไร คือแบบ … สะดุ้งและก็ตกใจแบบเสียขวัญไปเลยอ่ะ แบบ เราก็ไม่รู้จะตอบอะไรเขาอ่ะตอนนั้น แบบ ตอนนั้นคือทำตัวไม่ถูกเลย จนผมต้องไประบายในอีกเฟสนึงว่า

เราบอกเขาเรื่องสิ่งที่เราคิด แล้วเขาถามมา ไมต้องสะดุ้งกันนะแปลกมากเลยนะฉันเนี่ย

คือก็บอกเขาเองว่ากำลังคิดไร เขาก็ถามเพราะเขาก็อยากรู้ แต่ไมฉันต้องระแวง ขวัญอ่อน หรืออะไรกันด้วยนะ

เสร็จก็รีบไปถามเพื่อนต่อเลย แบบ สำหรับเรามันแปลกอ่ะ

แชทที่ทักไปหาเพื่อน

คือคิดไปจนดาวน์ระหว่างคาสายกับเขาเลย (ตอนนั้นเขาปั่นงานอยู่แล้วก็เผลอหลับไปอ่ะนะ) จำได้อยู่รอเขายันตี 2 กว่าแล้วไปนอน แล้วก่อนหน้านั้นก็ไม่รู้นะว่าเราเป็น พอไปบอกเขา เขาเลยเพิ่งเข้าใจ เพราะก็ไปดาวน์ใส่นางบ่อย ๆ จนนางคิดว่าการไปเที่ยวรอบนั้นมันไปสร้างแผลใจไรผม ทั้งที่จริง ๆ มันช่วยเยี่ยวยาฉันเลยอ่ะนะ

แชทคุณเนาวน์ประกอบ

เอาจริง ๆ ไอเรื่องเสียขวัญเนี่ย ก็เกิดบ่อยมากหลัง ๆ แบบ บางครั้งแค่โทรศัพท์ว่าเขาลงสตอรี่ใหม่ในแอคไพรเวทยังตกใจแบบ … เฮ้ย เขายังไม่บล็อคไรใช่ไหม แบบ … โคตรตกใจและเสียขวัญเวอร์ ๆ ไหนจะตอนอยู่ในห้องหลังจากวันนั้นอีีก คือเขาปล่อยและ เพราะสอนอะไรหมดและคาบนั้น แล้วผมก็นอน และเปิดรูปวันนั้นไว้ และก็เปิดเพลงนอน แล้วรู้สึกแบบ ร้อน ๆ และก็ เจ็บ ๆ ปวด ๆ ข้างใน เหมือนข้างในบอกว่า “มึงทำเหี้ยไรลงไปเนี่ย มึงเสี่ยงมากนะเว้ย” จนผมพิมพ์ข้อความนี้ในโน๊ต

แล้วกว่าจะหาย ก็… นานอยู่นะ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นตราบาปลึก ๆ ใจใจอยู่เลยอ่าาา 🥹🥹🥹


เอาหล่ะ เดี๋ยวจะมีคนสงสัยว่าแบบ

พี่ร้องไห้ทั้งเดือนเลยเหรอ เคยแบบมีความสุข ได้ทำไรบ้างไหม

อ่ะ ยอมรับ ก็เกือบทั้งเดือน มาดีช่วงปลายเดือน ตอนเราชวนคุณเนาวน์มาเล่น Royale High อ่ะ

แชทผมที่ชวนคุณเนาวน์เล่น

แล้วนางก็มาเล่นกับผม คือแบบ … ได้ฮีลตัวเองอีกรอบเลยอ่าาา

สายที่คุณเนาวน์โทรมาเล่นเกมกับผม

แล้วอารมณ์คือแบบ … เหมือนพี่น้องเล่นกันอ่ะ (ไม่ได้บูลลี่นะ แต่แบบ น่ารักอ่ะ 🥰🥰🥰)

รูปผมกับคุณเนาวน์ในเกม

คือแบบ … หลงน้องตัวเองไปเป็นวันเลยจร้าาาา ถึงขั้นมาตั้งเป็น Wallpaper อ่ะ

และงานล่าสุดที่ผมไป “น้องนัดพบพี่ท้องถิ่น” บอกเลย ฮีลใจมาก ๆ อยากขอบคุณทุกคนในงานนั้นมาก ๆ เลยจริง ๆ


เอาหล่ะ แล้วเรื่องอื่น ๆ หล่ะ เป็นไงบ้าง

It’s fine. มันโคตรสบายเลยเว้ย เรื่องเรียนถ้าไม่นับพวก Toxic ที่ต้องเจอทุกวันอ่ะ คือสบาย ๆ ส่วนใหญ่ทุกวิชา แค่ทำข้อสอบให้ได้ก็ 4 หมดแล้ว ส่วนใหญ่ล็อกเบส 3 ไว้แล้ว เพราะฉนั้นก็คงไม่ยากหรอกที่จะดันคะแนนให้ 4 อ่ะ ส่วนอย่างอื่นก็ปกติ อาจมีพาลใส่เพื่อนบ้าง (จริงๆ ก็เกือบทุกวันนั้นแหละ) ก็ไม่มีอะไรและ


วันนี้ Blog นี้มันจะดูเหมือนเน้นไปที่ Mental Health ผมแปลก ๆ ใช่มั้ย ใช่ เพราะเอาเข้าจริง ๆ ทุกอย่างก็ดูปกติมาก ๆ ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว ผมเลยเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเดือนหน้า ผมมีนัดหมอ ผมก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่า “ผมจะเป็นอะไรเพิ่มอีกไหม” ผมห่วงตัวเองเรื่องนี้เรื่องเดียว ส่วนใครที่อ่านแล้วเป็นเหมือนกัน อยากบอกนะว่า แกไม่ได้เป็นอยู่คนเดียว ขนาดคนที่สดใสที่สุดอย่างฉันยังเป็นเลย บอกเลยนะ ก่อนจะสดใสได้ ฉันก็โคตรมืดมนมา วันนี้คนที่ไม่เคยเจอการ Bully หนัก ๆ อาจไม่มีวันเข้าใจว่าเขาเป็นอย่างไร ฉันยอมรับก็เป็นผลผลิตจากการโดนเพื่อนทั้ง Bully และรุมแบนฉันตอนเด็กมาเหมือนกัน I know what’s it feels like. And if today you have any great memories like mine now. Don’t forget to also thanks it that makes you feels great and make you back on track too, not to longing it and makes you sad. อะไรประมาณนี้ แล้วก็เป็นกำลังใจให้นะ รู้แหละ ว่าไม่ได้หายง่าย ๆ หรอก (ไม่งั้นฉันคงไม่เป็นแบบนี้หรอก) พยายามหาคนระบายบ้าง อย่าเก็บไว้คนเดียวบ่อย รู้แหละนะว่าเรามักจะชอบโกหกใครต่อใครนะว่า ไหว แบกเองได้ แต่ Trust me, You wouldn’t do it for too long, and maybe someday you will hurt even more อ่ะ ก็เป็นกำลังใจให้นะ ใครมีเรื่องอะไร มาคอมเม้นคุยกันได้น้าาา